วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2551

@ แคลอรี ในอาหาร

มาดูว่า แคลอรี คืออะไรกันก่อนค่ะ
แคลอรี (Calorie ย่อว่า cal) คือ หน่วยวัดพลังงานที่ได้จากอาหาร แต่ค่า 1 แคลอรีนั้นน้อยมาก จึงใช้หน่วยที่ใหญ่กว่าคือ กิโลแคลอรี (kcal) ฉะนั้น เวลาพูดถึงพลังงานที่ได้จากอาหารต้องใช้หน่วยให้ถูก เช่น ข้าวหมูแดง 1 จาน ให้พลังงาน 537 กิโลแคลอรี ไม่ใช่ แคลอรี อย่างที่ชอบพูดกันผิดๆ

เดี๋ยวนี้คนบางส่วนเริ่มหันมาสนใจแคลอรีในอาหารกันมากขึ้นค่ะ อย่างบางรัฐ ในสหรัฐอเมริกา เขามีกฎหมายบังคับให้ร้านค้าภัตตาคารติดป้ายบอกแคลอรีเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลก่อนเลือกซื้อบริโภคกันแล้ว (แต่ร้านอาหารบางแห่งในบ้านเรามาแปลกกว่า คือรอให้อิ่มก่อนค่อยแจ้งจํานวนแคลอรีให้ทราบ อย่างนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยได้สักแค่ไหน เพราะตอนกินก็มักเพลิดเพลินจนลืมนึกถึงแคลอรีเสียสนิท)

โดยเฉลี่ย ร่างกายคนเราต้องการแคลอรีต่อวันไม่มากมายอะไรเลย อย่างผู้หญิงก็แค่ 1,600 kcal/วัน ส่วนผู้ชายก็ราวๆ 2,000 kcal/วัน ถ้ามากกว่านั้น พลังงานส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมทําให้อ้วน ซึ่งโอกาสที่คนเราจะได้รับแคลอรีเกินความต้องการนั้นเป็นไปได้ง่ายมาก ถ้ายังติดนิสัยชอบบริโภคบรรดาอาหารต้องห้ามต่างๆ ดังกล่าว

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างจํานวนแคลอรีของอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เห็นแล้วรับรองว่าต้องคิดหนักทีเดียวหากจะหยิบใส่เข้าปากในคราวต่อไป
ใครที่ชอบอาหารทอดๆ มันๆ อาหารที่ปรุงด้วยกะทิ คุณรู้ไหมว่า น้ำมัน 1 ช้อนชา ให้พลังงานเท่าไหร่ คําตอบก็คือ 45 kcal ซึ่งเท่ากับ กะทิ 3 ช้อนชาค่ะ

ปาท่องโก๋ 1 คู่ ให้พลังงาน 124 kcal, ขนมครก 1 คู่ ให้พลังงาน 97 kcal, สาคูไส้หมู 5 ลูก ให้พลังงาน 80 kcal ถ้าแค่นี้ยังไม่ทําให้คุณรู้สึกตกใจ ลองมาดูกลุ่มเนื้อสัตว์ไขมันสูงต่อไปนี้บ้าง ไส้กรอก 1⁄2 แท่ง, หมูย่าง 1 ช้อนกินข้าว, หนังหมู 1 ช้อนกินข้าว, ซี่โครงหมู 1 ช้อนกินข้าว, หมูยอ 1 ช้อนกินข้าว, ไก่ติดหนัง 1 ช้อนกินข้าว, หมูบด 1 ช้อนกินข้าว, แฮม 1⁄2 แผ่น, เนยแข็ง 1⁄2 แผ่น, กุนเชียงไม่มัน 1 ช้อนกินข้าว ฯลฯ


เนื้อสัตว์ไขมันสูงที่ยกมาให้ดูข้างต้น เห็นปริมาณน้อยๆ อย่างนี้นี่แหละ แต่ละอย่างให้พลังงานสูงถึง 50 kcal เลยทีเดียว แล้วในความเป็นจริงก็คงไม่มีใครกินน้อยขนาดนี้แน่ ก็ลองคํานวณดูกันเอาเองค่ะว่าจะได้รับแคลอรีเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันไปมากเพียงใด

ลองมาดูอาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ หรือขนมหวานต่างๆ กันบ้างค่ะ อย่าง “น้ำอัดลม” เครื่องดื่มสุดโปรดของคนทั่วโลก 1 ประป๋อง (325 มล.) ให้พลังงาน 240 kcal ถ้านิยมดื่มแบบเป็นขวด ( 290 มล.) พลังงานที่ได้รับก็ยังสูง อยู่ดีคือ 174 kcal

ลูกอม 2 เม็ดที่คุณรู้สึกว่าจิ๊บจ๊อยเหลือเกิน - ให้พลังงานสูงถึง 63 kcal น้ำอ้อย (200 มล.) - ให้พลังงาน 152 kcalขนมโดนัท 1 อัน- ให้พลังงาน 95 kcal

เอาละค่ะ หยิบมาให้ดูเป็นตัวอย่างแค่พอหอมปาก หอมคอ เพราะถ้าจะต้องแจงกันทุกชนิด ทุกประเภท เห็นทีหน้ากระดาษคงจะไม่พอ ถึงกระนั้นก็เชื่อว่าน่าจะทําให้คุณผู้อ่านได้ตระหนักว่า อาหารที่มีไขมันหรือน้ำตาลสูงนั้นเป็นศัตรูกับการควบคุมน้ำหนักของคุณเพียงใด

รู้หลบรู้หลีกอาหารต้องห้ามที่มีแคลอรีสูงกันแล้ว ก็อย่าชะล่าใจกับเมนูอาหารจานด่วนที่เรากินกันเป็นปกติในชีวิตประจําวันด้วยนะคะ คนรุ่นใหม่สมัยนี้ชีวิตต้องเร่งรีบแข่งขันกับเวลา จึงมักฝากท้องไว้กับอาหารตามสั่งที่มีให้เลือกมากมาย แต่คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ อาหารบางรายการมีไขมันแอบแฝงที่จะทําให้คุณได้รับแคลอรีมาก เกินจําเป็น หรือบางอย่างก็ให้แคลอรีสูงอย่างที่คุณนึกไม่ถึง ดังตารางข้างล่างค่ะ


ไม่ทราบว่าจะตรงกับเมนูโปรดของใครบ้างหรือเปล่า ถ้าใช่ก็พยายามเลี่ยงๆ เสียบ้าง อย่ากินเพราะเอาง่ายเข้าว่า หรือเพื่อความอร่อยอย่างเดียว ควรเลือกกิน เมนูอื่นให้หลากหลายเข้าไว้ ให้ได้ทั้งจํานวนแคลอรีที่เหมาะสม ตลอดจนคุณค่าทาง โภชนาการ

จะกินแต่ละมื้อให้คํานึงถึงแคลอรีในอาหารเอาไว้บ้างก็ดี แต่ไม่ต้องละเอียดลออ นับกันทุกแคลอรีเป๊ะๆ ไม่อย่างนั้นอาจเครียดเกินไปจนพาลหมดอร่อย และ

สุดท้ายขอฝากเทคนิคการปรับเปลี่ยนนิสัยการกิน เพื่อพิชิตอ้วน พิชิตพุง ไว้ให้ยึดปฏิบัติดังนี้ค่ะ

1.กินอาหารสมดุล ควบคุมสัดส่วนปริมาณอาหาร กลุ่มข้าว-แป้ง วันละ 8-12 ทัพพี ผัก วันละ 4-6 ทัพพี (ไม่หวาน) วันละ 3-5 ส่วน เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน วันละ 6-10 ช้อนกินข้าว นมพร่องมันเนย วันละ 1-2 แก้ว

2.กินอาหารธรรมชาติไม่แปรรูป เช่น เมล็ดธัญพืชต่างๆ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน งา ถั่วต่างๆ เป็นต้น

3.กินผักและผลไม้รสไม่หวานให้มากพอและครบ 5 สี คือ สีน้ำเงินม่วงแดง สีเขียว สีขาว สีเหลืองส้ม และสีแดง เพิ่มวิตามิน เกลือแร่ ใยอาหาร และพฤกษาเคมี สารเม็ดสีในผักผลไม้เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันโรค

4.กินเป็น คือ รู้จักหลีกเลี่ยงอาหารมันจัด หวานจัด และเค็มจัด

5.กินอาหารพออิ่ม ไม่บริโภคจนอิ่มมากเกินไป

6.กินอาหารเช้าทุกวัน มื้อเช้าเป็นมื้อหลักที่สําคัญ

7.กินอาหารมื้อเย็นแต่วัน เวลาสําหรับอาหารมื้อเย็นควรอยู่ห่างอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ก่อนนอน

วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2551

@ น้ำผักผลไม้ เพื่อสุขภาพดี น้ำหนักลด

หากเลือกลดน้ำหนักด้วยวิธีกินอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ คุณควรดื่มน้ำผักผลไม้คั้น ร่วมกับการบริโภคอาหารว่างประเภทโปรตีนอย่างถั่วเปลือกแข็งและธัญพืช หรืออาจเติมผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและนมวัว เช่น เนยแข็งคอตเทจ โยเกิร์ต ลงในสมุทตี ซึ่งจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ได้

แถมคุณยังเพลิดเพลินกับการดื่มน้ำผลไม้คาร์โบไฮเดรตสูงได้ โดยเจือจางกับโซดาหรือน้ำเปล่า หรือพลิกแพลงรสชาติโดยการผสมกับชาสมุนไพรเย็นหรือสมุนไพรชงก็ได้

ผสมผสานผักคาร์โบไฮเดรคต่ำกับผลไม้คาร์โบไฮเดรตสูง เพื่อให้ได้น้ำผักผลไม้คร์โบไฮเดรตต่ำ รสชาติดี มีสารอาหารครบถ้วน ด้วยนะคะ
ประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อคั้นน้ำผักผลไม้ดื่มเป็นประจำ
1. น้ำผักผลไม้คั้นมีสารอาหารสำคัญที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย
2. มีสารอาหารมากกว่าน้ำผักผลไม้สำเร็จรูป ที่ผลิตโดยผ่านกระบวนการความร้อน
3. ช่วยล้างพิษและทำความสะอาดภายในร่างกาย
4. ทดแทนอาหารมื้อด่วนหรือแก้หิวระหว่างมื้อได้
5. ช่วยชะลอความแก่
6. เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและฟื้นตัวจากการป่วยได้เร็ว
ผลไม้คาร์โบไฮเดรตต่ำ 10 ชนิด
แอปเปิ้ล ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 11.8 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
อะโวคาโด ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 1.9 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
ผลไม้จำพวกเบอร์รี่ ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 5 - 6 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
ผลไม้ตระกูลส้ม ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 8 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
เกรปฟรุต ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 6.5 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
มะนาวและเลมอน ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 2.5 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
แครนเบอร์รี่ ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 3.5 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
ผลกีวี ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 10 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
ผลไม้กลุ่มแตง ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 5 - 7 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
มะละกอ ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 8 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
สัปปะรด ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 10 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
มะเขือเทศ ปริมาณคาร์โบไฮเดรต 3.5 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม

ถ้าตอนนี้เพื่อน ๆ อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก หรือกำลังหาน้ำผักผลไม้ที่มาช่วยน้ำหนักลดกันละก้อ ขอแนะนำ น้ำเซเลอรี เฟนเนล และสัปปะรด ค่ะ ซึ่งเซเลอรีและเฟนเนลมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะที่ทรงประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เฟนเนลยังมีคุณสมบัติควบคุมความอยากอาหารหวาน ซึ่งอาจจะช่วยได้ในกรณีที่เพื่อน ๆ กำลังลดน้ำหนักได้ค่ะ

ส่วนผสม
เซเลอรี่ 100 กรัม เกลาส่วนแข็ง ๆ ของก้านออก
เฟนนอล 100 กรัม
สัปปะรด 75 กรัม ปอกเปลือก เอาแกนกลางออก
น้ำแข็งก้อน 2 - 3 ก้อน

วิธีทำ
นำเซเลอรี่ เฟนนอล สัปปะรด ไปคั้นน้ำโดยใช้เครื่องคั้นน้ำแบบแยกกากค่ะ คั้นรวมกันทีเดียวเลยก็ได้ค่ะ เทน้ำแข็งใส่แก้ว แล้วก็เทน้ำที่คั้นในแก้วที่ใส่น้ำแข็ง แค่นี้ก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ

คุณค่าทางโภชนาการ
คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม
พลังงาน 49 กิโลแคลอรี่
วิตามินซี 24 มิลลิกรัม
แคลเซียม 67 มิลลิกรัม

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2551

@ 4 อาหารสลายพุง

ด้วยวัฒนธรรมการกินที่เปลี่ยนไป ทำให้หนุ่มสาววัยใสที่กินไม่ระวังเริ่มตุ้ยนุ้ยก่อนวัยอันควร ใครกำลังหนักใจ เรามีอาหารที่มีการศึกษาว่าช่วยสลายไขมัน โดยเฉพาะไขมันรอบเอวได้อย่างมีประสิทธิภาพมาฝาก ลองกินตามสูตรนี้ดูนะคะ
1. อะโวคาโด อะโวคาโดอุดมไปด้วยสารเบตาซิสโตสเตอรอล ซึ่งช่วยในการดูดซึมคอเลสเตอรอล มีเส้นใยอาหาร ทั้งชนิดที่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยขจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากร่างกาย และชนิดที่ไม่ละลายน้ำซึ่งช่วยป้องกันอาการท้องผูก ปริมาณแนะนำต่อวัน: ¼ ถ้วย











2. บรอกโคลี่ นักวิจัยระบุว่าสารอาหารอย่างแคลเซียมช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีที่จะสะสมไว้เป็นไขมันส่วนเกินได้ และบร็อกโคลี่ก็มีดีที่เป็นแหล่งแคลเซียมซึ่งไม่มีไขมัน ปริมาณแนะนำ: 1 1/2 ถึง 2 ถ้วย








3. ถั่วและเมล็ดพืชต่างๆ มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนักได้ โดยเฉพาะถั่วเปลือกแข็ง และเมล็ดพืชต่างๆ เช่น อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดฟักทอง พิสทาชิโอ ปริมาณแนะนำต่อวัน: 2 ช้อนโต๊ะ

4. น้ำมัน เลือกกินน้ำมันที่มีประโยชน์ช่วยลดน้ำหนักได้ น้ำมันพืชต่างๆ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันชา น้ำมันถั่วเหลือง ปริมาณแนะนำต่อวัน: 1 ช้อนโต๊ะ


นอกจากดูแลเรื่องอาหารการกินแล้ว ก็ต้องออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะคะ




ที่มา ... ชีวจิต

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

@ เผาผลาญไขมันโดยการเพิ่มกิจกรรมให้ร่างกาย

หลังจากสร้างสมดุลให้กับร่างกายโดยการกินอาหารที่ถูกต้องกันแล้ว ต้องมีการกำจัดไขมันให้ไม่เหลือเก็บไว้สะสมในร่างกายกันด้วยค่ะ

การใช้พลังงานต่อกีฬาแต่ละชนิด
ออกกำลังแบบเบา ๆ พลังงานที่ใช้ น้อยกว่า 7 แคลอรี่ / นาที กิจกรรม ได้แก่ เต้นรำ โบว์ลิ่ง เดินทอดน่อง กอล์ฟ แบดมินตัน ยิงธนู
ออกกำลังปานกลาง พลังงานที่ใช้ 8 - 12 แคลอรี่ / นาที กิจกรรม ได้แก่ แบดมินตัน ฟุตบอล สควอท บาสเกตบอล วิ่ง วอลเลย์บอล เดินเร็ว
ออกกำลังกายหนัก พลังงานที่ใช้ มากกว่า 13 แคลอรี่ / นาที กิจกรรม ได้แก่ การแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ เช่น จักรยาน แฮนด์บอล วิ่ง ว่ายน้ำ เดินมาราธอน

ใครอยากทำกิจกรรมแบบไหนก็เลือกดูนะคะ แต่ก็อย่าหักโหมจนเกินความสามารถของร่างกายนะคะ เพราะประโยชน์อาจจะกลายเป็นโทษได้ค่ะ

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551

@ กินอย่างไรให้น้ำหนักลดอย่างได้ผล

การลดน้ำหนักส่วนใหญ่ที่คนเรานิยมทำกันมากที่สุดก็คือการอดอาหาร ใช้ยาลดน้ำหนักเข้ามาช่วยในการลดน้ำหนัก ซึ่งวิธีดังกล่าวมักเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องเลย วิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้องที่สุดนั้นเราจะต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมาก การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ จำเป็นต้องได้ปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายที่จะใช้ให้หมดไปในแต่ละวัน โดยไม่เหลือเก็บสะสมเป็นไขมันส่วนเกินในร่างกาย ซึ่งเป็นผลให้เกิดโรคอ้วนต่อมาในอนาคต แต่ถ้ามันเกิดขึ้นมาแล้วเราก็ต้องมาเริ่มกำจัดมันออกไปจากร่างกายของเราโดยเร็วเพื่อสุขภาพและชีวิตที่ปลอดโรคภัยไข้เจ็บกันดีกว่าค่ะ

การลดน้ำหนักที่ดีต้องเป็นการลดแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่ารีบร้อนและหักโหมจนเกินไป อัตราการลดน้ำหนักที่ดีควรจะลดให้ได้ในสัปดาห์ละ 0.5 กิโลกรัม ก็เพียงพอค่ะ การรีบร้อนในการลดน้ำหนักอาจจะเป็นผลดีต่อการลดน้ำหนักได้เร็ว แต่อาจนำมาซึ่งผลร้ายที่ตามมาโดยไม่คาดคิดในอนาคต สำหรับคนที่มีน้ำหนักมากต้องการลดน้ำหนักให้ได้เร็ว ๆ ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เพื่อให้แพทย์ได้ทำการคำนวณปริมาณอาหารให้จะดีกว่าค่ะ ซึ่งการลดน้ำหนักโดยกินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ มีผลทำให้ร่างกายบางส่วนของเราทำงานผิดปกติ และนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้เนื่องจากขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อความต้องการของร่างกายค่ะ

การลดน้ำหนักที่ทำให้ได้ผลนั้นเราต้องมีการตั้งเป้าหมายเพื่อการลดน้ำหนักด้วย เพื่อเป็นแรงจูงใจทำให้เรามีความพยายามและอดทนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างไม่ย่อท้อและล้มเลิกกลางคันเสียก่อน ก่อนที่เราจะเริ่มลดน้ำหนักนั้นเราควรที่จะมีการชั่งน้ำหนักและวัดสัดส่วนจดบันทึกไว้เป็นสถิติเพื่อให้เรารู้ผลความคืบหน้าของกิจกรรมลดน้ำหนัก การจดบันทึกนั้นควรจดบันทึกเป็นรายสัปดาห์ เมื่อเราเริ่มจดบันทึกครั้งแรกวันไหนครั้งต่อไปควรจดบันทึกให้ตรงกับวันที่บันทึกครั้งแรก การชั่งน้ำหนักควรชั่งเวลาเดียวกัน แนะนำให้ชั่งตอนเช้าจะดีที่สุด เพราะตอนเช้าเรายังไม่ได้กินอะไรน้ำหนักในร่างกายจะเป็นน้ำหนักตัวที่แท้จริงค่ะ

คนที่ต้องการลดน้ำหนักในปริมาณที่ไม่มากการเลือกกินอาหารนั้นปกติเรากินอาหารครบ 5 หมู่อยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องตวงวัดปริมาณอาหารมากมาย เพียงแค่ลดปริมาณอาหารที่มีไขมันสูงในแต่ละมื้อก็เพียงพอแล้ว แต่ทั้งนี้ต้องได้ระดับพลังงานไม่ต่ำเกินไป เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ระดับพลังงานในการลดน้ำหนักที่ต่ำสุดและปลอดภัยใน 1 วัน คือ ต้องกินอาหารให้ได้พลังงาน 1200 แคลอรี่ สำหรับผู้หญิง และ 1500 แคลอรี่ สำหรับผู้ชาย

อาหารสำหรับช่วงลดน้ำหนัก
1. นม : เลือกนมพร่องไขมัน, นมไม่มีไขมัน, โยเกิร์ตรสจืด


2. เนื้อสัตว์ 1 ส่วน : หมายถึง เนื้อสัตว์ชิ้นขนาดกล่องไม่ขีดไฟ (เล็ก) หรือสับละเอียดขนาด 2 ช้อนโต๊ะ หรือ ลูกชิ้น 5 - 6 ลูก หรือหั่นบางๆ
5 - 6 ชิ้น หรือไข่ 1 ฟอง หรือกุ้งขนาด 2 นิ้ว 4 - 5 ตัว หรือปลาทู ½ ตัว

3. ข้าว 1 ส่วน : สามารถเลือกกินขนมปัง 1 แผ่น หรือข้าวสุก 5 ช้อนโต๊ะ หรือข้าวต้ม 2 ทัพพี หรือขนมปังกรอบ 2 แผ่น

4. ผลไม้ 1 ส่วน : เช่น มะละกอสุก 8 ชิ้นเล็ก หรือมะม่วงดิบ 3 ชิ้นยาว หรือลูกตาล 3 ลอน หรือสับปะรด 8 ชิ้นเล็ก หรือฝรั่ง 1 ผลเล็ก หรือ
อปเปิ้ล 1 ผลเล็ก

5. ผัก : ควรเลือกผักที่มีสีเขียวเข้ม สีแดง สีส้ม สีเหลือง

6. ไขมัน : ควรเลือกใช้น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว หรือบางมื้ออาจใช้เนย ½ ก้อนเล็ก หรือหัวกะทิ 2 ช้อนกินข้าว แทนไขมัน
1 ช้อนชา

อัตราส่วนที่นำเสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งของอัตราส่วนอาหารแลกเปลี่ยนค่ะ เป็นการคำนวณปริมาณอาหารที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ในแต่ละวันตามหลักโภชนาการที่นักโภชนาการใช้กันค่ะ ซึ่งจะนำมาเสนอในคราวต่อไปค่ะ

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

@ She low fat

เชื่อได้เลยว่าผู้หญิงทุกคนต้องสนใจในเรื่องของน้ำหนักแน่นอน และในปัจจุบันก็ไม่ใช้แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะให้ความสำคัญกับการลดน้ำหนัก เดี๋ยวนี้ผู้ชายส่วนใหญ่ก็หันมาให้ความสำคัญกับการลดน้ำหนักกันมากขึ้นด้วย

เหตุจากการที่สื่อหลาย ๆ สื่อได้มีการนำเสนอถึงเรื่องปัญหาของสุขภาพที่สืบเนื่องมาจากความอ้วนนั่นเอง รวมถึงหน่วยงานทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลเองได้มีการให้ความสนใจเรื่องนี้กันมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดโครงการแข่งขันลดน้ำหนักของรายการที่สนับสนุนโดยผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักต่าง ๆ หรือจะเป็นโครงการของกระทรวงสาธารณสุขเองก็ตาม ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ได้ตระหนักถึงผลกระทบของการเป็นโรคอ้วน ที่จะก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ เช่น ความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น จึงทำให้ในปัจจุบันมีคนหันมาใส่ใจในเรื่องของการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพขึ้นมาก ทำให้บางประเทศออกข้อบังคับออกมาเป็นกฎข้อบังคับสำหรับพนักงานของบริษัทหรือพนักงานของหน่วยงานราชการถึงบทลงโทษสำหรับคนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ยิ่งเป็นผลให้บุคคลเหล่านี้ต้องรีบลดน้ำหนักกันเป็นการด่วน ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำให้บุคคลต่าง ๆ ได้กระตือรือร้นที่ลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น ถึงแม้ว่าบทลงโทษจะหนักไปบ้างก็นับว่าได้ผลดีเยี่ยมสำหรับประเทศนั้น ๆ ที่มีข้อบังคับแบบนี้มาใช้ เพราะผลลัพธ์ออกมาก็เพื่อประโยชน์ของประชาชนนั่นเองค่ะ

แต่นอกจากเหตุผลของการมีสุขภาพที่ดีแล้ว สิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักของผู้หญิงอย่างเรา ๆ ก็เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของรูปร่างแน่นอนค่ะ แน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนต้องชอบให้ตัวเองมีรูปร่างที่ดีแน่นอน แต่การที่จะทำให้มีรูปร่างที่ดีนั้นต้องมีความพยายามและอดทนค่อนข้างมากเลยทีเดียวค่ะ และก็อีกนั่นแหละค่ะผู้หญิงไม่ใช่ทุกคนที่มีพื้นฐานรูปร่างที่ดีด้วยพื้นฐานทางพันธุ์กรรม ใครที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนหรือเรียกว่ามีระบบเผาผลาญที่ดีเยี่ยมนี่นับว่าเป็นที่น่าอิจฉาสำหรับผู้หญิงทั่ว ๆ ไปเลยทีเดียวค่ะ แล้วก็มีไม่น้อยเหมือนกันนะคะที่ผู้หญิงบางคนต้องใช้ความพยายามในการลดน้ำหนักและควบคุมอาหารเพื่อรักษารูปร่างให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ ซึ่งบุคคลประเภทนี้ต้องใช้ความอดทนที่มากค่ะ แล้วบุคคลกลุ่มนี้ก็มีทั้งที่ทำได้สำเร็จและไม่สำเร็จค่ะผู้ที่ทำไม่สำเร็จก็มีอยู่ไม่น้อยทีเดียวนะคะ ซึ่งผู้เขียนเองก็เป็นคนหนึ่งค่ะที่ยังอยู่ในกลุ่มนี้แต่ก็ยังพยายามค่ะยังไม่ท้อที่จะทำเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แล้วจะมานำเสนอวิธีการลดน้ำหนักและสูตรอาหารเพื่อการลดน้ำหนัก รวมถึงวิธีการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและสัดส่วนต่าง ๆ ต่อไปค่ะ